บทความ

คุณเคลมประกันรถยนต์ บ่อยแค่ไหน ? 

       ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเคลมประกันรถยนต์บ่อย ๆ ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด รวมถึงยังให้ความคุ้มครองแม้แต่ในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีด้วย แต่ถ้าหากคุณเคลมบ่อย บวกกับเป็น “ฝ่ายผิด” บ่อยครั้ง อาจทำให้เกิดผลเสียต่าง ๆ ตามมา ดังนี้

1.ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น
หากใน 1 ปี คุณดำเนินการ “แจ้งเคลม” หลายครั้ง นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น” ในปีถัดไป เนื่องจากการแจ้งเคลมในแต่ละครั้ง บริษัทฯ ได้มีการบันทึกลงในประวัติเคลมทุกครั้ง

2.ไม่ได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน
นอกจากค่าเบี้ยประกันจะสูงขึ้นแล้ว ส่วนลดที่ควรจะได้รับก็หายไปด้วยเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่แล้ว “ส่วนลด” จะมีให้กับลูกค้าที่มีประวัติดี หรือลูกค้าที่ไม่เคยเคลมประกันภัยรถยนต์ในปีที่ผ่านมาเลย แถมยังถูกบันทึกว่าเป็นลูกค้าประวัติไม่ดีอีกด้วย

3.อาจถูกยกเลิกกรมธรรม์
การแจ้งเคลมบ่อย ๆ เป็น “ปัจจัยเสี่ยง” ที่ทำให้คุณถูกยกเลิกกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ แถมยังไม่ต้องรอครบปีอีกด้วย โดยเฉพาะในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด เนื่องจากบริษัทฯ จะวิเคราะห์ว่าคุณขับรถด้วยความประมาท จนเป็นเหตุให้ต้องเคลมประกันอยู่บ่อยครั้ง หากต้องการจ่ายต่อประกันกับที่เดิม จำเป็นจะต้องจ่ายเพิ่ม 30% จากเบี้ยประกันเดิม และได้ทุนประกันเท่าเดิม

4.ติดแบล็คลิสต์จากบริษัทประกันได้
การติดแบล็คลิสต์จากบริษัทประกันรถยนต์ คือ บริษัทฯ ไม่ยินยอมที่จะต่อประกันรถยนต์ในปีต่อ ๆ ไป เพราะตามปกติแล้วบริษัทฯ จะกำหนดเอาไว้ว่า “ต้องไม่มีการเคลมเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัยต่อปี” ยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นได้ว่า คุณจ่ายค่าเบี้ยประกันปีละ 15,000 บาท คุณจะสามารถแจ้งเคลมได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี เป็นต้น

แม้ว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ปกป้องคุณบนท้องถนนได้ทุกกรณี แต่ยังมีข้อควรระวังอีกมากมาย โดยเฉพาะการแจ้งเคลมประกันบ่อย ๆ อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นติดแบล็คลิสต์ได้ง่าย ๆ แนะนำให้ขับขี่ด้วยความไม่ประมาท เพื่อประวัติที่ดีของคุณและเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกด้วย