9 เทคนิค ขับรถเกียร์ออโต้ ให้ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าเดิม วันที่สร้าง : 2025-05-28 13:56:35 เปิดดูทั้งหมด : 7 ครั้ง ทำไมรถเกียร์ออโต้ถึงกินน้ำมันมากกว่าที่คิด แม้รถเกียร์ออโต้จะขับง่ายและสะดวกสบาย แต่กลับขึ้นชื่อว่าเป็นรถกินน้ำมันมากกว่าที่หลายคนคาดคิด มาดูกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น พฤติกรรมขับรถที่ทำให้เปลืองน้ำมันโดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมการขับขี่มีผลอย่างมากต่ออัตราการใช้น้ำมัน แม้คุณจะขับรถรุ่นที่ประหยัดพลังงาน หากพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ก็อาจทำให้สิ้นเปลืองโดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างที่พบบ่อย ได้แก่ การเร่งเครื่องโดยไม่จำเป็น เช่น ออกรถเร็วหรือแซงกระทันหัน, การเบรกบ่อยจากการขับชิดคันหน้าเกินไป, การขับด้วยรอบเครื่องสูงเกินจำเป็น, หรือการไม่รักษาความเร็วคงที่ในระยะทางไกล ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ระบบเกียร์ออโต้ต้องทำงานหนักกว่าปกติ นอกจากนี้ การไม่ปิดเครื่องยนต์ขณะจอดรอเป็นเวลานาน รวมถึงการเปิดแอร์แรงและนานเกินไปในสภาพอากาศที่ไม่จำเป็น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นโดยที่ผู้ขับอาจไม่ทันได้สังเกต การตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนนิสัยเล็กๆ เหล่านี้เป็นวิธีประหยัดน้ำมันให้กับรถยนต์ของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ 9 เทคนิคประหยัดน้ำมันสำหรับรถเกียร์ออโต้ หากคุณใช้รถเกียร์ออโต้และรู้สึกว่ารถกินน้ำมันมากเกินไป เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณขับขี่ได้คุ้มค่าทุกลิตร 1. ไม่ต้องวอร์มเครื่องนาน การวอร์มเครื่องยนต์ก่อนขับในรถรุ่นเก่าอาจเป็นเรื่องจำเป็น แต่สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่โดยเฉพาะรถเกียร์ออโต้ที่ใช้ระบบหัวฉีดและมีการควบคุมอุณหภูมิด้วยเซนเซอร์ การวอร์มนานเกินไปจะยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันโดยไม่จำเป็น เพียงแค่รอให้รอบเครื่องนิ่งแล้วเริ่มขับอย่างนุ่มนวลก็เพียงพอ ทั้งยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์จากไอเสียอีกด้วย 2. เหยียบคันเร่งนุ่มนวล สม่ำเสมอ (ไม่คิกดาวน์ถ้าไม่จำเป็น) การขับแบบเร่งเร็วหยุดเร็วทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ โดยเฉพาะรถเกียร์ออโต้ที่มีระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติตามแรงกดของคันเร่ง หากคุณเหยียบแรงบ่อยครั้ง รถจะเปลี่ยนเกียร์ช้าลง ส่งผลให้รอบเครื่องสูงและกินน้ำมันมากขึ้น การขับด้วยความเร็วคงที่และเหยียบคันเร่งเบา ๆ สม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบเกียร์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด 3. ใช้เกียร์ N เมื่อติดไฟแดง การใช้เกียร์ D ค้างไว้ในขณะจอดนิ่ง เช่น ติดไฟแดงหรือติดแยกนานหลายนาที ทำให้เครื่องยนต์ยังคงทำงานร่วมกับเกียร์ ส่งผลให้มีการสิ้นเปลืองพลังงานและอาจทำให้ระบบเกียร์ร้อนโดยไม่จำเป็น การโยกเกียร์ไปที่ตำแหน่ง N และเหยียบเบรกไว้ จะช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ และช่วยยืดอายุการใช้งานของชุดเกียร์อัตโนมัติในระยะยาว 4. ไม่เหยียบเบรกค้างหากไม่จำเป็น นอกจากการเหยียบเบรกค้างจะทำให้ไฟเบรกติดตลอดเวลา ซึ่งอาจรบกวนรถที่อยู่ข้างหลังแล้ว ยังทำให้ผ้าเบรกสึกหรอเร็วขึ้น หากเบรกบ่อยหรือเบรกค้างเป็นเวลานานในช่วงที่รถจอดติด จะเพิ่มอุณหภูมิในระบบเบรกและอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการหยุดรถ การใช้เบรกมือหรือเกียร์ N แทนการเหยียบเบรกค้าง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในแง่ของการประหยัดและความปลอดภัย 5. เช็กลมยางให้เหมาะสมเสมอ แรงดันลมยางมีผลต่อการประหยัดน้ำมันโดยตรง หากลมยางต่ำเกินไป หน้ายางจะสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้น ทำให้เกิดแรงต้านการหมุนสูงขึ้น และส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องใช้แรงขับเคลื่อนมากขึ้นอย่างไม่จำเป็น ส่งผลให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้น ควรตรวจสอบลมยางตามคำแนะนำจากคู่มือรถเป็นประจำ รวมถึงปรับแรงดันให้เหมาะสมก่อนเดินทางไกล 6. อย่าบรรทุกของหนักเกินความจำเป็น น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เครื่องยนต์ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการขับเคลื่อน ส่งผลโดยตรงต่อการใช้น้ำมัน หากไม่จำเป็น ควรนำของที่ไม่ใช้ในรถออกเพื่อลดภาระของรถ 7. ตรวจเช็กระบบเครื่องยนต์และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามรอบ เครื่องยนต์ที่ทำงานได้ดีและน้ำมันเครื่องอยู่ในสภาพสมบูรณ์จะช่วยให้ระบบการเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการกินน้ำมันโดยไม่จำเป็น และยืดอายุเครื่องยนต์ในระยะยาว 8. หลีกเลี่ยงการใช้แอร์แรงเกินไป การเปิดแอร์เบอร์แรงสุดหรือเปิดตลอดเวลา ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น และเครื่องยนต์ต้องเร่งรอบมากขึ้นตามไปด้วย ใช้แอร์อย่างเหมาะสมจะช่วยลดภาระเครื่องยนต์ได้ 9. วางแผนเส้นทาง หลีกเลี่ยงรถติด การขับรถในสภาพจราจรติดขัดเป็นเวลานานคือสาเหตุหลักที่ทำให้ชรถกินน้ำมันมากที่สุด หากเป็นไปได้ควรวางแผนเส้นทางล่วงหน้า หลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนหรือเส้นทางที่มีการก่อสร้าง