บทความ

ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร ทำไมต้องจ่าย ค่าเสียหายส่วนแรก?

ค่าเสียหายส่วนแรก คือ อะไร?

คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้ให้ทุกบริษัทประกันภัยได้ใช้ในการดำเนินการ มีวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพื่อป้องกันผู้ที่แจ้งเคลมโดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง เพื่อหวังซ่อมรถกับบริษัทประกันภัย ขับรถด้วยความประมาทหรือไม่ใช้ความระมัดระวังมากพอ

เพราะคิดว่าหากเกิดความเสียหายขึ้นกับรถ ก็สามารถแจ้งเคลมกับบริษัทประกันภัยเพื่อซ่อมรถเมื่อไหร่ก็ได้นั่นเอง

ค่าเสียหายส่วนแรก มี 2 ประเภท คือ ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับจ่าย (Excess) และ ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจจ่าย (Deductible) 

ค่าเสียหายส่วนแรก ประเภทไหน จ่ายตอนไหนบ้าง

เปรียบเทียบความแตกต่างของค่า Excess และค่า Deductible

ประเภท ✅ ต้องจ่ายต่อเมื่อ ❌ในกรณีไม่ต้องจ่าย ยกตัวอย่าง
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบบังคับจ่าย (Excess)

ต้องจ่ายต่อเมื่อ ไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ซึ่งได้แก่ ป้ายทะเบียน ทั้งตัวเลข ตัวอักษร และจังหวัด ที่ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันรถยนต์ไปไล่หาต้นเหตุจนพบตัวคู่กรณีที่ต้องรับผิดชอบได้และต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดความเสียหายกับรถยนต์ของเรา หรือได้รับอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง เช่น ชนหรือคว่ำที่ไม่มีคู่กรณี

ไม่ต้องจ่ายต่อเมื่อ เป็นฝ่ายถูก และจะต้องสามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นการชนแล้วทำให้เกิดความเสียหายถึงกับ บุบ แตก ร้าว ระบุสาเหตุความเสียหายที่ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันไปไล่เบี้ยหาต้นเหตุจนพบคนที่ต้องรับผิดชอบได้

1.) นาย A ทำประกันกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ มีค่าเบี้ยประกัน 20,000 บาท ต่อมา นาย A ได้ขับรถชนกับรถนาย B ทำให้รถของนาย A เป็นรอยด้วย นาย A จึงนำรถเข้าเคลมกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ จึงต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท ตามที่ได้ตกลงกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ไว้

2.) นาย A ขับรถไปชนขอบฟุตบาตจนทำให้รถเป็นรอย จึงได้นำรถเข้าเคลมกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ นาย A จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เนื่องจากเกิดจากการขับรถประมาทของตนเอง จนทำให้รถเกิดความเสียหาย

ค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจจ่าย (Deductible)

ต้องจ่ายต่อเมื่อ เป็นฝ่ายผิด จะต้องชำระค่าเสียหายส่วนแรกตามเหตุการณ์ ที่ได้ตกลงกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ โดยลูกค้าจะได้ประโยชน์จากการที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ให้บางส่วน

ไม่ต้องจ่ายต่อเมื่อ เป็นฝ่ายถูก และจะต้องสามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นการชนแล้วทำให้เกิดความเสียหายถึงกับ บุบ แตก ร้าว ระบุสาเหตุความเสียหายที่ชัดเจนพอที่จะให้บริษัทประกันไปไล่เบี้ยหาต้นเหตุจนพบคนที่ต้องรับผิดชอบได้ ส่วนลดเบี้ยประกันที่ได้ตกลงไว้ในตอนต้น จะถือว่าตกเป็นผลประโยชน์ของเจ้าของกรมธรรม์นั้นเอง

นาย A ตกลงทำประกันรถยนต์แบบ Deductible มีค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท ทำให้ได้รับส่วนลด จ่ายเบี้ยประกันถูกลง ต่อมานาย A ได้ขับรถไปชนรถนาย B นาย A จึงนำรถเข้าเคลมกับบริษัทประกันภัยรถยนต์ มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 3,000 บาท นาย A จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกจำนวน 2,000 บาท ตามที่ได้ตกลงกับบริษัทฯประกันไว้

โดยส่วนมาก ผู้ที่เลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจนั้น เพราะอยากลดค่าเบี้ยประกันรายปี แต่พี่กู๊ดแนะนำว่าจะต้องเป็นคนที่ขับรถได้ดี มั่นใจว่าจะไม่ชน ไม่เฉี่ยวรถคันอื่นหรือเป็นผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ ถือเป็นการเลือกจ่ายเบี้ยประกันให้ถูกลง ที่ปฏิบัติกันได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับค่าเสียหายส่วนแรกที่จำเป็นต้องรู้ก่อนทำประกันรถยนต์ครับ

อย่างไรก็ตาม เราควรที่จะถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องถึงข้อมูลที่ถูกต้อง กับบริษัทฯประกันภัยรถยนต์ที่คุณสนใจ และศึกษาข้อมูลก่อนซื้อประกันรถยนต์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจเลือก